ใครบ้างที่ควรตรวจ EKG เป็นประจำ

การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram : EKG หรือ ECG) เป็นการตรวจที่ใช้บันทึกสัญญาณไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในหัวใจ ซึ่งสามารถบอกได้ว่า หัวใจเต้นสม่ำเสมอหรือไม่ มีภาวะหัวใจโต หลอดเลือดหัวใจตีบ หรือหัวใจขาดเลือดหรือเปล่า การตรวจนี้ใช้เวลาไม่นาน (ประมาณ 5–10 นาที) ไม่เจ็บตัว และมีความแม่นยำสูง

แม้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จำเป็นต้องตรวจ EKG เป็นประจำ แต่ก็มีหลายกลุ่มที่แพทย์ แนะนำให้ตรวจอย่างสม่ำเสมอ เพื่อคัดกรองโรคหัวใจที่อาจแฝงอยู่และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย


1. ผู้ที่มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับหัวใจ

อาการที่มักบ่งบอกว่าควรตรวจ EKG ได้แก่

  • เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก โดยเฉพาะเวลาทำงานหรือออกแรง

  • ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วหรือช้าผิดปกติ

  • เหนื่อยง่ายแม้ทำกิจกรรมเบา ๆ

  • เวียนศีรษะ หน้ามืด หรือเป็นลมโดยไม่ทราบสาเหตุ

  • หายใจลำบากในช่วงเวลากลางคืนหรือนอนราบไม่ได้

👉 เหตุผล: อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของโรคหัวใจขาดเลือด ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งหากตรวจพบเร็วสามารถรักษาได้ทันเวลา


2. ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ
  • หากพ่อแม่หรือพี่น้องสายตรงมีประวัติหัวใจวาย หัวใจขาดเลือด หรือเสียชีวิตกะทันหันจากโรคหัวใจ

  • กลุ่มนี้ถือว่าเป็น กลุ่มเสี่ยงทางพันธุกรรม

👉 เหตุผล: พันธุกรรมเป็นปัจจัยสำคัญของโรคหัวใจ การตรวจ EKG เป็นประจำช่วยเฝ้าระวังความผิดปกติและวางแผนป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ


3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวดังนี้

  • เบาหวาน – ทำให้หลอดเลือดเสื่อมเร็ว หัวใจเสี่ยงขาดเลือด

  • ความดันโลหิตสูง – เพิ่มความเสี่ยงหัวใจโตและหัวใจวาย

  • ไขมันในเลือดสูง – นำไปสู่ภาวะหลอดเลือดแข็งตัวและตีบตัน

  • โรคอ้วน – เพิ่มภาระการทำงานของหัวใจและความเสี่ยงโรคหัวใจขาดเลือด

👉 เหตุผล: กลุ่มนี้เสี่ยงต่อ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและหัวใจล้มเหลว การตรวจ EKG อย่างสม่ำเสมอช่วยประเมินความเสี่ยงและติดตามการรักษา


4. ผู้สูงอายุ
  • เมื่ออายุเกิน 50–60 ปี หัวใจและหลอดเลือดย่อมเสื่อมตามธรรมชาติ

  • แม้ไม่มีอาการผิดปกติ ก็อาจมีโรคหัวใจแฝงอยู่

👉 เหตุผล: การตรวจ EKG ปีละครั้งเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสุขภาพผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันหัวใจวายหรือภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่อาจเกิดขึ้นกะทันหัน


5. ผู้ที่ใช้ยาบางชนิด

ยาบางประเภทอาจมีผลต่อหัวใจ เช่น

  • ยาควบคุมจังหวะหัวใจ

  • ยาต้านซึมเศร้าหรือยาทางจิตเวช

  • ยารักษามะเร็งบางชนิด

👉 เหตุผล: ยาเหล่านี้อาจส่งผลต่อจังหวะการเต้นของหัวใจ หากตรวจ EKG เป็นประจำจะช่วยติดตามความปลอดภัยในการใช้ยา


6. นักกีฬาและผู้ที่ออกกำลังกายหนัก
  • กลุ่มนักกีฬามืออาชีพ เช่น นักวิ่งมาราธอน นักปั่นจักรยาน นักเพาะกาย

  • หรือผู้ที่ออกกำลังกายหนักเกิน 5 วันต่อสัปดาห์

👉 เหตุผล: แม้การออกกำลังกายดีต่อสุขภาพ แต่ก็มีรายงานภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันในนักกีฬาที่มีโรคหัวใจแฝงโดยไม่รู้ตัว การตรวจ EKG ก่อนเริ่มโปรแกรมการฝึกหนักจึงเป็นเรื่องสำคัญ


7. ผู้ที่กำลังเข้ารับการผ่าตัดใหญ่หรือดมยาสลบ
  • ก่อนผ่าตัดใหญ่ เช่น ผ่าตัดหัวใจ กระดูกใหญ่ หรือช่องท้อง

  • การดมยาสลบส่งผลต่อระบบไหลเวียนและหัวใจ

👉 เหตุผล: การตรวจ EKG ช่วยประเมินความพร้อมของหัวใจก่อนผ่าตัด หากพบความผิดปกติ แพทย์สามารถวางแผนการดูแลได้เหมาะสม ลดความเสี่ยงระหว่างการผ่าตัด


สรุป

การตรวจ EKG เป็นเครื่องมือที่ ง่าย ปลอดภัย ไม่เจ็บตัว แต่มีความสำคัญอย่างมากในการเฝ้าระวังโรคหัวใจ

กลุ่มที่ควรตรวจเป็นประจำ ได้แก่:

  1. ผู้ที่มีอาการผิดปกติทางหัวใจ

  2. ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ

  3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง (เบาหวาน ความดัน ไขมันสูง อ้วน)

  4. ผู้สูงอายุ

  5. ผู้ที่ใช้ยาบางชนิดที่ส่งผลต่อหัวใจ

  6. นักกีฬาและผู้ที่ออกกำลังกายหนัก

  7. ผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดใหญ่หรือดมยาสลบ

👉 หากคุณอยู่ในกลุ่มเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์และตรวจ EKG เป็นประจำ จะช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติได้เร็ว ลดความเสี่ยงโรคหัวใจร้ายแรง และทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจมากขึ้น