มะเร็งตับคืออะไร? เข้าใจชนิด อาการ และการดำเนินของโรค
มะเร็งตับ (Liver Cancer) คือหนึ่งในโรคร้ายแรงที่คุกคามชีวิตของคนไทยและคนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ หรือการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ชนิดของมะเร็งตับ อาการที่ควรระวัง และลำดับการดำเนินของโรค อย่างละเอียด เพื่อเป็นแนวทางในการเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพ
มะเร็งตับคืออะไร?
มะเร็งตับคือการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติในเนื้อตับ ซึ่งอาจเริ่มต้นที่ตับเอง (มะเร็งตับปฐมภูมิ) หรือแพร่กระจายมาจากอวัยวะอื่น (มะเร็งตับทุติยภูมิ) ซึ่งแบบแรกพบมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชนิดของมะเร็งตับ
มะเร็งเซลล์ตับ (Hepatocellular carcinoma หรือ HCC)
เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด มักเกิดในผู้ที่มีโรคตับเรื้อรัง เช่น ตับแข็งหรือตับอักเสบ B/Cมะเร็งท่อน้ำดีในตับ (Intrahepatic cholangiocarcinoma)
เกิดจากท่อน้ำดีภายในตับ พบมากในบางภูมิภาค เช่น ภาคอีสานของไทย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกินปลาน้ำจืดดิบ (พยาธิใบไม้ตับ)Angiosarcoma และ Hepatoblastoma
พบน้อย มักเกิดในกลุ่มอายุเฉพาะ (เช่น เด็ก หรือผู้สูงอายุ)สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B หรือ C (โดยเฉพาะถ้าติดตั้งแต่วัยเด็ก)
ภาวะตับแข็งจากแอลกอฮอล์หรือไขมันพอกตับ
พันธุกรรมและความผิดปกติทางเมตาบอลิซึม
การได้รับสารพิษ เช่น สารอะฟลาท็อกซินจากถั่วเก่า
โรคเบาหวานและภาวะอ้วน
อาการของมะเร็งตับ
อาการมักไม่ชัดเจนในระยะแรก แต่อาจสังเกตได้จาก:
อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
ปวดหรือแน่นบริเวณชายโครงขวา
ท้องโตจากน้ำในช่องท้อง (Ascites)
ตัวเหลือง ตาเหลือง
อาการคล้ายตับแข็ง หรือมีเลือดออกง่าย
การวินิจฉัยโรค
อัลตราซาวด์ช่องท้อง (Ultrasound)
การตรวจเลือดหา AFP (Alpha-fetoprotein)
เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) หรือ MRI
การตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจทางพยาธิวิทยา (Biopsy)
การดำเนินของโรค
มะเร็งตับมีพัฒนาการที่รวดเร็ว โดยเฉพาะหากตรวจพบเมื่อเข้าสู่ระยะลุกลาม การแบ่งระยะของโรคโดยทั่วไป ได้แก่:
ระยะเริ่มต้น (Early Stage): มะเร็งยังมีขนาดเล็ก ตับยังทำงานได้ดี
ระยะกลาง (Intermediate Stage): เริ่มกระจายเฉพาะในตับ
ระยะลุกลาม (Advanced Stage): แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น เช่น ปอด ต่อมน้ำเหลือง
ระยะสุดท้าย (Terminal Stage): ตับเสียหายมาก ผู้ป่วยมักมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
แนวทางการรักษา
การผ่าตัดตับ (Liver Resection)
เหมาะสำหรับผู้ที่ตรวจพบในระยะเริ่มต้นการปลูกถ่ายตับ (Liver Transplantation)
ในกรณีที่ตับเสียหายมากหรือไม่สามารถผ่าตัดเฉพาะส่วนได้การทำเคมีบำบัดเฉพาะจุด (TACE)
ฉีดยาเข้าเส้นเลือดที่เลี้ยงก้อนมะเร็งการใช้รังสีรักษา หรือการใช้คลื่นความถี่วิทยุ (RFA/Microwave ablation)
การใช้ยากลุ่มใหม่ เช่น ยาต้านมะเร็งแบบมุ่งเป้า (Targeted Therapy) และยาภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy)
การป้องกันมะเร็งตับ
ฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีตั้งแต่เด็ก
หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคตับเรื้อรัง
หลีกเลี่ยงอาหารดิบ หรืออาหารที่มีเชื้อราปนเปื้อน
ควบคุมน้ำหนัก และรักษาโรคเบาหวานให้ดี
สรุป
มะเร็งตับเป็นโรคที่เงียบแต่ร้ายแรง หากตรวจพบช้าโอกาสรอดชีวิตจะลดลงอย่างมาก ดังนั้น “การเฝ้าระวัง ป้องกัน และตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ” จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณและคนที่คุณรักปลอดภัยจากภัยเงียบนี้
หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับตับ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยโดยละเอียด